พระตำหนักปางตอง แม่ฮ่องสอน

พระตำหนักปางตอง

พระตำหนักปางตอง แม่ฮ่องสอน ที่ประทับซึ่งเต็มไปด้วยฟาร์ม และแปลงเกษตรทดลอง




พาไปชมกิจกรรมในคอกแกะ เลี้ยงแกะ ให้อาหารแกะ การตัดขนแกะ การทอผ้าขนแกะด้วยมือ ภายในพระตำหนักปางตอง ซึ่งยังมี อีกหลายส่วนที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็น ส่วนที่เป็นสวนสัตว์ ส่วนที่เป็น แปลงปลูกพืช ดอกไม้ ผัก นานาชนิด และความสวยงามของดอกท้อสีขาว ณ พระตำหนักปางตอง จ.แม่ฮ่องสอน

หากใครเคยเดินทางไปปางอุ๋ง คงได้ผ่านพระตำหนักนี้กันอยู่บ้าง เพราะเป็นทางเดียวกัน พระตำหนักจะถึงก่อน อยู่ทางซ้ายมือ รอบๆบริเวณท้งวหมด เป็นพื้นที่พัฒนาของโครงการหลวงหลายจุด จะสังเกตุเห็น ว่ามีโครงการหลวงปางตอง หลายแห่ง เช่น ปางตอง2 ทีเราคุ้นเคยนั้น ก็คือ ปางอุ๋งนั้นเอง ที่มีเขื่อน บนภูเขา คนนิยมมาเที่ยวกันในฤดูหนาว ถ้าขับรถเลยขึ้นไปอีกก็จะเป็นบ้านรักไทย หมู่บ้านที่โด่งดังจากวฒนธรรมแบบจีน บ้านดิน นั้นเอง

คราวนี้พอเราขับรถขึ้นเขามาถึงทางเข้าพระตำหนัก ด้วยความยากลำบากแล้ว (เห็นรถหลายคันจอดตายกลางทางก็มี เพราะทางชันมาก) เลี้ยวซ้ายเข้าตำหนักตามป้ายที่แสดง จากจุดนี้ ทางจะชันมากขึ้นไปอีก แต่จะไม่ไกล นิดเดียว ควรเข้ามาเที่ยวในเวลาก่อน 4 โมงเย็นนะครับ เพราะเขาจะปิด ไม่ค่ำนัก

ภาพ: บรรยากาศในพระตำหนักปางตอง

ภายในพระตำหนัก เป็นพื้นที่ ที่มีทหารดูแล และอำนวยความสะดวกอยู่ภายใน ไม่เสียค่าบริการครับ และด้านในเขาแบ่งเป็นหลายโซน พวกเราลุยกันไปจุดที่เขาเลี้ยงแกะกันก่อนเลย(ศูนย์การเลี้ยงแกะ) อยู่ด้านในพระตำหนัก เกือบสุดทาง ซึ่งสุดทางมีโรงเรียนด้วยนะ ชื่อโรงเรียน "ร่มเกล้าปางตอง" เป็นโรงเรียนประจำ ของเด็กๆแถวนั้น มี่ที่พักให้เด็กๆก็จะหาชีพระหว่างเรียนด้วยการปลูกผัก น่าสนใจดีนะ เด็กๆนิสัยดีมากๆ เจอพวกเราสวัสดีกันทุกคนเลย ประทับใจเรื่องมารยาทจริงๆ 

ในพระตำหนักปางตอง มี ศูนย์กางเลี้ยงแกะ ตามพระราชดำริ ตั้งอยู่ภายใน

คอกแกะที่เลี้ยงเป็นตัวอย่างการเลี้ยงแกะให้เกษตรกรมาศึกษาดูงานได้

แกะข้ามถนน มาพบประสบการณ์ใหม่แบบนี้ได้ที่ พระตำหนักปางตอง จ.แม่ฮ่องสอน

แกะที่นี่เลี้ยงไม่เหมือนที่สวนผึ้งนะครับ เค้าเลี้ยงเพื่อใช้ขน ตัดขนกันจริงๆ เพื่อการเกษตรไม่ใช่เพื่อนักท่องเที่ยวแบบที่สวนผึ้ง ดังนั้นเราจะได้เห็นการเลี้ยงจริงๆเลยครับ

กลับมที่คอกแกะกันก่อน เขามีพื้นที่ส่วนจัดแสดงด้วย มีสิ้นค้าเกี่ยวกับแกะมาขาย พวกผ้าพันคอ ผ้าผืนใหญ่ เสื้อขนแกะ กระเป๋า ประมาณนั้น แล้วก็มี แกะตัวเล็กๆน่ารัก อยู๋บนเกวียนห้นักท่องเที่ยวให้อาหารได้ ยังมีจุดถ่ายรูปกับแกะอีกหลายมุมที่น่านใจ แกะทุกตัวอาบน้ำมาอย่างสะอาด ดูขาวน่ารักเลย ใครมาไม่ถ่ายรูปกับแกะ ไม่ได้นะ จะได้เอาไปโชว์เพื่อน

รอบบริเวณยังมีพื้นที่จำลองบ้านเด็กเลี้ยงแกะ มีคอกม้า ที่สำคัญ มาที่เอามาใก้นักท่องเที่ยวขี่นี้ ไม่คิดค่าบริการ แต่ขอเป็นการให้เป็นสินน้ำใจ เท่าไหร่ก็ได้ (เขาบอกมาอย่างนี้)

คอกแกะจริงที่เห็น แกะเป็นฝูงใหญ่ก็อยู่ฝั่งตรงข้ามนี้เอง ที่เราจะเห็นฝูงแกะเต็มไปหมด ถ้าไปได้เวลาเหมาะเราจะเห็นการต้อนแกะ ....เห็นภาพที่แกะนับร้อย เดินกันเป็นขบวนสวยงามน่ารักมาก 

อาคารบริเวณนี้ใกล้คอกแกะจะมีผลิตภัณฑ์จากแกะมาจำหน่ายด้วยครับ เป็นของที่ศูนย์ทำเอง

แกะตัวอย่าง แกะปางตองหน้าตาแบบนี้แหละครับ 

มีลูกแกะตัวเล็กมาให้เราป้อนอาหารด้วย น่ารัก ขนสะอาดมาก นุ่มๆๆ

กินหน่อยนะเจ้าแกะน้อย

ขนมันนุ่มแล้วก็น่ารักมากเลยครับ

เลี้ยงแกะในทุ่งหญ้ากว้างใหญ่

ลูกแกะน้อยที่พระตำหนักปางตอง

กินหน่อยนะครับ

ผลิตภัณฑ์จากขนแกะครับ ราคาไม่แพง

สักพื้นเป็นที่ระลึก ขนแกะของแท้

แกะในทุ่ง ที่ยังไม่ได้ทำความสะอาดขนก็จะดำนิดนึงนะ

ยังมีกิจกรรมขี่ม้าสำหรับนักท่องเที่ยวด้วยนะครับ ดำเนินงานโดยชาวบ้านเอง

พาไปชมคอกม้าของพระตำหนักปางตอง

มีแปลงปลูกต้นท้อ หน้าหนาวจะออกดอกสีขาวสวยมาก

ความงามของดอกท้อ

ดอกท้อนี้เหมือนดอกซากุระเลยนะว่ามั๊ยครับ

ในพระราชตำหนักปางตอง มีพื้นที่สำหรับการเลี้ยงกวางพันธ์ต่างๆด้วย 

ทำในลักษณะฟาร์มเลี้ยงกวาง เพื่อขยายพันธ์ุ

มีพื้นที่ปลูกผัก ทำไร่

แปลงทดลองปลุกพืชผักต่างๆ ...คนที่อยู่ในนี้ก็แทบจะไม่ต้องออกไปข้างนอกแล้วครับ ในพระตำหนักปางตองมีอาหารการกินบริบูรณ์ 

มีแปลงปลูกผักในพระตำหนัก 

แล้วก็มีสวนดอกไม้ด้วย

ใครมีโอกาสมาที่แม่ฮ่องสอนก็อย่าลืมแวะมาเที่ยวครับ ได้ความรู้และความประทับใจแน่นอน

การเดินทาง 
มาทางเดียวกับการเดินทางไปปางอุ๋ง ใช้ เส้นทางสายแม่ฮ่องสอน - ปาย (ทางหลวงหมายเลข 1095) ถึงกิโลเมตรที่ 10 (ก่อนถึงเมืองแม่ฮ่องสอน)เลี้ยวซ้ายไปยังบ้านหมอกจำแป่ ตรงขึ้นเขาไปเรื่อยๆก็เจอ

หากนักท่องเที่ยวเดินทางมาจากอำเภอปาย สามารถใช้เส้นทางจากปาย ผ่านอำเภอปางมะผ้า และอำเภอเมือง ก่อนถึงตัวเมืองแม่ฮ่องสอน ประมาณ 17 กิโลเมตร (ผ่านถ้ำปลา) แล้วเลี้ยวขวาเข้าหมู่บ้านหมอกจำแป่

หลายคนคงอยากรู้ว่าพระตำหนักปางตองอยู่ตรงไหน ..อยู่ใกล้ๆหมู่บ้านหมอกจำแป๋ จุดที่เลี้ยวเข้าสู่ปางอุ๋งนั้นแหละครับ ต้อขึ้นเขามาจากพื้นราบประมาณ 25 กิโลเมตร ทางเข้าพระตำหนักค่อนข้างชันมาก รถที่เข้าควรอยู่ในสภาพดี

ขอขอบคุณข้อมูลจาก http://pangoung.sadoodta.com/




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น